วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มาทำความรู้จักชิป Intel Core i Gen 4th (Haswell) อนาคตของวินโดวส์ 8 ฝากไว้ที่นี่

เนื่องด้วยว่า ณ ขณะนี้ทาง Intel ได้ทำการเปิดตัว Chip Set รุ่นใหม่ที่อยู่ในตระกูล Intel Core I ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากในฝั่ง PC ซึ่งกระผมเองก็คงไม่พลาดที่จะเอาเรื่องร้อนๆ แบบนี้มาเล่าให้ฟังแน่นอนเพราะว่าเจ้า Chip Set ตัวนี้กำลังจะเข้ามามีบทบาทกับ Tablet มากขึ้นไงครับ ว่าแล้วก็ไปเริ่มทำความรู้จักกันก่อนเลยดีกว่า

 
Intel ผู้ยิ่งใหญ่บนโลกใบนี้(จริงเหรอ?)
หากเราจะพูดถึงชิปประมวลผลอะไรก็ได้ซักตัวรวมๆ กันหมดก็ต้องไปนึกถึง Intel กันก่อนใช่ไหมหล่ะครับ เพราะว่าแน่นอนเขาสร้างชื่อเสียงกับฝั่งของ Notebook หรือ PC มาอย่างยาวนานมากๆ
แต่ถ้าเราพูดถึง Intel ในกลุ่มของสมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ตนั้นกลับไม่ได้เป็นเบอร์แรกๆ ที่คนจะนึกถึงแน่นอนเพราะว่าตอนนี้คู่แข่งอย่าง Qualcomm ที่น่าจะเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดเลยก็ว่าได้ ไหนจะต้องเจอกับ NVIDIA ที่โดดเด่นเรื่องกราฟิก หรือจะ MediaTek ของดีราคาถูกที่คอยเก็บตลาดล่างอยู่ โอ้ยมองมุมไหน Intel ก็ยังไม่สามารถใช้คำว่าผูยิ่งใหญ่แห่งโลก ชิปประมวลผล ได้ครับ
ดังนั้นการที่ Intel จะครองโลกนี้ให้อยู่ในกำมือตัวเองทั้งในกลุ่ม Notebook PC หรือจะ Hybrid PC และ Smartphone ได้นั้น ก็ต้องสร้างสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ทั้งโลกต้องการ ก็เลยต้องเกิด Intel Core I ที่ใช้กับ PC กลุ่ม Windows Tablet ตัวแรงทั้งหลาย และ Intel Atom ที่จับตลาด Smartphone และ Android Tablet ขึ้นมาครับ แตว่าในบทความนี้เราจะมานั่งคุยถึง Intel Core I กันเพราะว่าอีกไม่นานนี้ เพื่อนๆ เชื่อผมเถอะว่าเราจะได้เจอกันอีกเพียบแน่นอน ผมก็เลยจะขอพามันมาให้เพื่อนๆ ได้ทำความรู้จักกันครับ
 
ปูทางเก็บทีละ Segment มองไปที่กลุ่ม Notebook Hybrid เป็นที่แรก
ดังนั้นทาง Intel เลยต้องหันมาเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาชิปประมวลผลสำหรับอุปกรณ์อย่าง สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต ซึ่งหัวหอกในงานนี้ก็เป็น Intel Atom ที่รับไปเต็มๆ แต่ว่าเราจะยังไม่พูดถึงในตอนนี้นะครับ เพราะว่าในตอนนี้เราจะมาพูดถึง Intel Core i Gen 4th หรือโค้ดเนมว่า Haswell กันครับ
สำหรับเจ้าชิป Intel Haswell นั้นจัดอยู่ในตระกูล Core i ที่มีกันอยู่สามพี่น้องคือ Core i3, Core i5 และ Core i7 เดิมทีนั้นใน gen 1-2 จะถูกเน้นพัฒนาออกมาให้ใช้งานกับ Notebook และ PC เป็นหลักครับ จนกระทั่งถึง Intel Core i gen3 ที่มีโค้ดเนมว่า Ivy Bridge ได้มีการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมในการสร้างใหม่ทำให้ตัวชิปมีขนาดเล็กลงจากเดิมที่มีขนาด 32นาโนเมตร ลงมาเหลือเพียง 22 นาโนเมตร
ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เกิดการมองว่า Windows Tablet ตัวแรงๆ น่าจะออกมาอาละวาดในท้องตลาดมากขึ้น แต่ว่ามันกลับสวนทางกันครับ เพราะว่าเจ้า Intel Core i Gen 3rd (Ivy Bridge) ที่เปิดตัวออกมาพร้อม Windows 8 ได้ถูกตั้งความหวังว่าคู่นี้จะพากันจูงมือสร้างแท็บเล็ต Windows 8 ออกมาและทำยอดขายได้สูง แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้สวยงามขนาดนั้นครับเพราะว่า Intel Core i Gen 3rd (Ivy Bridge) นั้นมันยังค่อนข้างกินไฟ และมีความร้อนที่ค่อนข้างสูงครับ ทำให้เมื่อลงมาอยู่ในแท็บเล็ต (hybrid) นั้นจะต้องมาประสบกับปัญหาแบตเตอรี่หมดไว และมีความร้อนสะสมสูง ส่วนสุดท้ายก็คือราคาที่แพงแสนจะแพงคือมันจะโดขึ้นไปอยู่ที่ 27,000 - 30,000+ เลยครับ
 
Haswell ทางเดินใหม่ของกลุ่ม Hybrid
เรื่องราวด้านบนนั้นคือปี 2012 ที่ผ่านมานะครับ เพราะว่าในปีนี้ 2013 ทาง Intel ได้พัฒนาชิปตัวใหม่และเปิดตัวออกมาในงาน Computex 2013 ที่ ไต้หวัน นี้ก็คือ Intel Core i Gen 4th (Haswell) ที่มาพร้อมจุดเด่น 2-in-1 from factor ก็คือใช้งานได้ทั้ง Notebook, PC และ Tablet ได้ดียิ่งขึ้น เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของตลาด IT 
เจ้า Intel Core i Gen 4th (Haswell) จะยังอยู่ในสถาปัตยกรรมเดิมนะครับ มีขนาด 22นาโนเมตร Tri-Gate เช่นเดิม แต่ว่าสามารทำให้ Notebook ประหยัดพลังงานเมื่อเชื่อแบตเตอรี่ได้นานกว่าเดิมถึง 50% มีประสิทธิภาพในเรื่องของกราฟิกดีขึ้น แต่ว่ากินไฟเพียง 6วัตต์(สำหรับตัว Core i5 ในรุ่นประหยัดไฟนะครับ) เท่านั่นเองครับ
 
แล้ว Intel Core i Gen 4th (Haswell) จะเข้ามามีบทบาทกับ Hybrid
สำหรับ Intel Core i Gen 4th (Haswell) นั้นถ้าเราจากสรรพคุณที่เขาว่านั้นก็จะเห็นว่าความสามารถนั้นต่างกับ Intel Core i Gen 3rd (Ivy Bridge) อยู่เยอะ มันเลยทำให้เกิดความง่ายในการออกแบบ Device สำหรับผู้ผลิตทั้งหลายยังไงหล่ะครับ อยากบาง อยากเบากว่าเดิม แต่ไม่อยากเสียประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว
เพราะไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตเปล่าๆ ก็สามารถยังคงประสิทธิภาพความแรงพร้อมกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่มากขึ้น หรือจะทำเป็นแบบ Hybrid แยกร่างกันแบบ Asus Transformer book Trio ที่แยกร่างก็รัน Android ด้วยขุมพลัง Intel Atom พอรวมร่างกับ Keyboard Dock ก็รัน Windows 8 Pro ด้วยขุมพลัง Intel Core i5 Gen 4th (Haswell) สามารถทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด
สรุปง่ายๆ ก็คือมันช่วยให้อิสระกับกับผู้ผลิตเพราะว่าชิป Intel Core i Gen 4th (Haswell) ตัวนี้มีความสามารถสูง แต่ประหยัดไฟ ดังนั้นผู้ผลิตอยากจะทำเครื่องให้บางลงหรือเบาลงได้ง่ายขึ้นนั่นแหละครับ ดังนั้นพวกเครื่องที่กำลังออกมาหลังจากนี้ เราก็จะได้เห็นเครื่องสุดบาง น้ำหนักเบา พกพาง่ายขึ้น ได่ประสิทธิภาพที่สูงเทียบเท่า Notebook แต่ว่าประหยัดแบตเตอรี่มาให้เลือกกันอย่างตาลายกันแน่นอนครับ